ในตอนที่แล้ว เราได้พูดถึงเรื่องมารยาทในสังคมกัน เพื่อเป็นการต่อ
ยอด วันนี้จึงขอนำเสนอสมบัติผู้ดีโดยสรุป เพื่อเราจะได้นำไปใช้เป็นแนวทาง ให้รู้ว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร
หนังสือ สมบัติของผู้ดี ประพันธ์โดย เจ้าพระยาวิสุทธิ์สุริยศักดิ์
(ม.ร.ว.เปีย มาลากุล) ซึ่งเรียบเรียงไว้ตั้งแต่พ.ศ.2455 พบคุณสมบัติผู้ดีไว้ 10 บท แต่ละบทครอบคลุมทั้งกายจริยา วจีจริยา และมโนจริยา หรือ กาย วาจา ใจ สรุปเป็นตัวอย่างดังนี้
บทที่ 1 ผู้ดีย่อมรักษาความเรียบร้อย ไม่ใช้กิริยาอันกล้ำกรายบุคคล ไม่สอดสวนวาจาหรือแย่งชิงพูด ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านกำเริบหยิ่งยโส
บทที่ 2 ผู้ดีย่อมไม่ทำอุจาดลามก ใช้เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวอันสะอาดเรียบร้อย ไม่กล่าวถึงสิ่งโสโครกพึงรังเกียจในท่ามกลางชุมชน พึงใจที่จะรักษาความสะอาด
บทที่ 3 ผู้ดีย่อมมีสัมมาคารวะ นั่งด้วยกิริยาอันสุภาพเฉพาะหน้าผู้น้อย ไม่พูดจาล้อเลียนผู้ใหญ่ เคารพยำเกรงบิดามารดาและอาจารย์ นับถือนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ มีความอ่อนหวานแก่ผู้น้อย
บทที่ 4 ผู้ดีย่อมมีกิริยาเป็นที่รัก ไม่ทำกิริยารื่นเริงเมื่อเขามีทุกข์ ไม่เที่ยวติเตียนสิ่งของที่เขาตั้งแต่งไว้ในบ้านที่ตนไปสู่ ไม่กล่าวสรรเสริญรูปกายบุคคลแก่ตัวเขาเอง ไม่พูดเคาะแคะสตรีกลางประชุม และย่อมรู้จักเกรงใจคน
บทที่ 5 ผู้ดีย่อมเป็นผู้มีสง่า มีกิริยาอันผึ่งผายองอาจ จะยืนนั่งย่อมอยู่ในลำดับอันสมควร พูดจาฉะฉานชัดถ้อยความ มีความรู้จักงามรู้จักดี มีอัชฌาสัยอันกว้างขวางเข้าไหนเข้าได้
บทที่ 6 ผู้ดีย่อมปฏิบัติการงานดี ทำการอยู่ในระเบียบแบบแผน ไม่ละเลยที่จะตอบจดหมาย พูดสิ่งใดย่อมให้เป็นที่เชื่อถือได้ เป็นผู้รักษาความสัตย์ ไม่เป็นผู้เกียจคร้าน
บทที่ 7 ผู้ดีย่อมเป็นผู้ใจดี เมื่อเห็นเหตุร้ายหรืออันตรายจะมีแก่ผู้ใดย่อมต้องรีบช่วย ไม่เยาะเย้ยถากถางผู้กระทำผิดพลาด ไม่ใช้วาจาอันข่มขี่ ไม่มีใจอันโหดมเกรี้ยวกราดแก่ผู้น้อย เอาใจโอบอ้อมอารีแก่ผู้อื่น
บทที่ 8 ผู้ดีย่อมไม่เห็นแก่ตัวฝ่ายเดียว เป็นผู้ใหญ่จะไปมาลุกนั่งย่อมไว้ช่องให้ผู้น้อยมีโอกาสบ้าง ไม่ขอแยกผู้หนึ่งมาจากผู้ใดเพื่อพาไปพูดจาความลับกัน ไม่มีใจมักได้ ไม่พึงใจการหยิบยืมข้าวของทองเงินซึ่งกันและกัน
บทที่ 9 ผู้ดีย่อมรักษาความสุจริตซื่อตรง ไม่ละลาบละล้วงเข้าห้องเรือนแขกก่อนเจ้าของบ้านเขาเชิญ ไม่ซอกแซกไต่ถามธุระส่วนตัวหรือการในบ้านของเขา เป็นผู้รักษาความไว้วางใจของผู้อื่น
บทที่ 10 ผู้ดีย่อมไม่ประพฤติชั่ว ไม่เป็นพาลเที่ยวเกะกะระรั้วและกระทำร้ายคน ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเจ็บอายเพื่อความสนุกยินดีของตน ไม่เป็นพาลพอใจทะเลาะวิวาท ไม่พอใจนินทาว่าร้ายกันและกัน ไม่ปองร้ายผู้อื่น มีความเหนี่ยวรั้งใจตนเอง เป็นผู้มีความละอายแก่บาป
(ม.ร.ว.เปีย มาลากุล) ซึ่งเรียบเรียงไว้ตั้งแต่พ.ศ.2455 พบคุณสมบัติผู้ดีไว้ 10 บท แต่ละบทครอบคลุมทั้งกายจริยา วจีจริยา และมโนจริยา หรือ กาย วาจา ใจ สรุปเป็นตัวอย่างดังนี้
บทที่ 1 ผู้ดีย่อมรักษาความเรียบร้อย ไม่ใช้กิริยาอันกล้ำกรายบุคคล ไม่สอดสวนวาจาหรือแย่งชิงพูด ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านกำเริบหยิ่งยโส
บทที่ 2 ผู้ดีย่อมไม่ทำอุจาดลามก ใช้เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวอันสะอาดเรียบร้อย ไม่กล่าวถึงสิ่งโสโครกพึงรังเกียจในท่ามกลางชุมชน พึงใจที่จะรักษาความสะอาด
บทที่ 3 ผู้ดีย่อมมีสัมมาคารวะ นั่งด้วยกิริยาอันสุภาพเฉพาะหน้าผู้น้อย ไม่พูดจาล้อเลียนผู้ใหญ่ เคารพยำเกรงบิดามารดาและอาจารย์ นับถือนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ มีความอ่อนหวานแก่ผู้น้อย
บทที่ 4 ผู้ดีย่อมมีกิริยาเป็นที่รัก ไม่ทำกิริยารื่นเริงเมื่อเขามีทุกข์ ไม่เที่ยวติเตียนสิ่งของที่เขาตั้งแต่งไว้ในบ้านที่ตนไปสู่ ไม่กล่าวสรรเสริญรูปกายบุคคลแก่ตัวเขาเอง ไม่พูดเคาะแคะสตรีกลางประชุม และย่อมรู้จักเกรงใจคน
บทที่ 5 ผู้ดีย่อมเป็นผู้มีสง่า มีกิริยาอันผึ่งผายองอาจ จะยืนนั่งย่อมอยู่ในลำดับอันสมควร พูดจาฉะฉานชัดถ้อยความ มีความรู้จักงามรู้จักดี มีอัชฌาสัยอันกว้างขวางเข้าไหนเข้าได้
บทที่ 6 ผู้ดีย่อมปฏิบัติการงานดี ทำการอยู่ในระเบียบแบบแผน ไม่ละเลยที่จะตอบจดหมาย พูดสิ่งใดย่อมให้เป็นที่เชื่อถือได้ เป็นผู้รักษาความสัตย์ ไม่เป็นผู้เกียจคร้าน
บทที่ 7 ผู้ดีย่อมเป็นผู้ใจดี เมื่อเห็นเหตุร้ายหรืออันตรายจะมีแก่ผู้ใดย่อมต้องรีบช่วย ไม่เยาะเย้ยถากถางผู้กระทำผิดพลาด ไม่ใช้วาจาอันข่มขี่ ไม่มีใจอันโหดมเกรี้ยวกราดแก่ผู้น้อย เอาใจโอบอ้อมอารีแก่ผู้อื่น
บทที่ 8 ผู้ดีย่อมไม่เห็นแก่ตัวฝ่ายเดียว เป็นผู้ใหญ่จะไปมาลุกนั่งย่อมไว้ช่องให้ผู้น้อยมีโอกาสบ้าง ไม่ขอแยกผู้หนึ่งมาจากผู้ใดเพื่อพาไปพูดจาความลับกัน ไม่มีใจมักได้ ไม่พึงใจการหยิบยืมข้าวของทองเงินซึ่งกันและกัน
บทที่ 9 ผู้ดีย่อมรักษาความสุจริตซื่อตรง ไม่ละลาบละล้วงเข้าห้องเรือนแขกก่อนเจ้าของบ้านเขาเชิญ ไม่ซอกแซกไต่ถามธุระส่วนตัวหรือการในบ้านของเขา เป็นผู้รักษาความไว้วางใจของผู้อื่น
บทที่ 10 ผู้ดีย่อมไม่ประพฤติชั่ว ไม่เป็นพาลเที่ยวเกะกะระรั้วและกระทำร้ายคน ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเจ็บอายเพื่อความสนุกยินดีของตน ไม่เป็นพาลพอใจทะเลาะวิวาท ไม่พอใจนินทาว่าร้ายกันและกัน ไม่ปองร้ายผู้อื่น มีความเหนี่ยวรั้งใจตนเอง เป็นผู้มีความละอายแก่บาป
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น